จอ E-BOARD คืออะไร?

จอระบบสัมผัส touch screen ขนาดใหญ่ ส่วนชื่อเรียกแต่ละผู้ผลิตจะเรียกต่างกันออกไป จอกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เราจะเห็นอยู่ในห้องเรียน ห้องประชุม พร้อมซอฟต์แวร์ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเขียน และแชร์ข้อมูลต่างๆ ปัจจุบันเราจะได้พบเห็นจอกลุ่ม E-Board มากมายหลายยี่ห้อ วันนี้เราจะมาแชร์ข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางสำหรับเลือกซื้อจอ E-Board ให้ตรงกับการใช้งานของเรามากที่สุด เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด เพราะว่าจอหนึ่งจอราคาไม่ถูกค่ะ

ข้อมูลต้องรู้ก่อนซื้อ E-Board

1. ใช้ในห้องประชุม หรือห้องเรียน

ห้องประชุม อาจจะไม่ต้องการฟังก์ชั่นที่มากมายนัก แบบนี้จะทำให้เราตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็นออกไปได้เยอะเลย เพราะการมีฟังก์ชั่นที่เยอะขึ้นจะทำให้ราคารวมของโซลูชั่นสูงตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อเป็นแบบนี้เราก็เลือกจอรุ่นที่มีฟังก์ชั่นที่เหมาะกับเราก็พอ

ห้องเรียน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับอาจารย์ผู้สอน สำหรับโซลูชั่นนี้จึงจำเป็นที่จะต้องมีฟังก์ชั่นการทำงานที่คลอบคลุม และสามารถช่วยให้การเรียนการสอนง่ายขึ้นด้วย เช่น ฟังก์ชั่นเลขาคณิตต่างๆ

เราจะเห็นว่าการใช้งานทั้งสองรูปแบบแตกต่างกันเลย นี้จึงเป็นข้อแรกที่ผู้ใช้งานต้องตัดสินใจให้ถูกทางเสียก่อน

2. ใช้งานคนเดียว หรือใช้กันหลายคน

ใช้งานคนเดียว ข้อนี้อาจจะเป็นตัวเลือกสำหรับห้องผู้บริหาร หรือห้องอาจารย์วิชาเฉพาะ ที่บุคคลอื่นไม่มีสิทธิเข้ามาใช้งานร่วมได้ หากการใช้งานเป็นแบบนี้ คุณสามารถเลือกจอทัชสกรีนได้ง่ายมากๆ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยของระบบมากนัก (แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย)

ใช้งานหลายคน หากการใช้งานของคุณตรงกับข้อนี้ เราขอแนะนำให้คุณเช็คฟังก์ชั่นด้านความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อที่เวลาใช้งานข้อมูลของคุณจะเป็นความลับ และไม่สูญหายจากผู้ไม่หวังดี

4. จำนวนของผู้เข้าร่วมประชุม หรือผู้เรียน

หากคุณใช้งานเป็นกลุ่มเล็ก คุณอาจจะเลือกใช้ขนาดจอเพียง 55″ ก็พอ แต่หากคุณใช้งานในกลุ่มใหญ่ขึ้น อาจจะต้องพิจารณาจอขนาดที่ใหญ่ขึ้น เช่น 65″ – 85″ และถ้ายังไม่พอ คุณจำเป็นจะต้องหาอุปกรณ์เสริมมาช่วยในการขยายขนาดจอเพิ่มไปอีก นั่นหมายความว่าคุณจะต้องเลือกจอที่มีฟังก์ชั่นการแชร์หน้าจอไปยังอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วย

5. อารมณ์ ความรู้สึก ในการเขียน

ข้อนี้อาจจะดูเป็นส่วนตัวนิดนึง แต่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานอย่างมาก เพราะถ้าคุณเคยเขียนกระดาน White board หรือกระดานอื่นๆ อยู่เป็นประจำ คุณจะต้องไปทดลองเขียนบนจอของจริง เพื่อจะได้รู้ว่าการตอบสนองต่อการเขียนบนจอ มันสามารถตอบโจทย์คุณได้หรือเปล่า เพราะจอบางรุ่นเวลาเขียนจะมีการดีเลย์ มากน้อยแล้วแต่สเปคของแต่ละยี่ห้อ ดังนั้นข้อนี้ผู้ใช้งานควรต้องไปลองเอง

6. ระบบปฏิบัติการ ซอฟต์แวร์ สำหรับการประชุม หรือการเรียน

ส่วนสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือเรื่องของซอฟต์แวร์ และระบบปฏิบัติการ เราจะต้องรู้ว่าจอ E-Board ที่เราจะซื้อมานั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง เช่น

ยี่ห้อ ABC ในโซลูชั่นประกอบไปด้วย จอทัชสกรีน คอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์

ยี่ห้อ DEF ในโซลูชั่นประกอบไปด้วย จอทัชสกรีนฝั่งซอฟต์แวร์มาในจอ ไม่ต้องคอมพิวเตอร์

หรืออื่นๆ ตรงนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้จำนวนหนึ่งเลย หากคุณมองว่าคอมพิวเตอร์ไม่ใช่สิ่งจำเป็น อีกทั้งการมีคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นมาพร้อมจออีกหนึ่งเครื่อง หมายความว่างานของคุณต้องเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เพราะต้องดูแลคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นอีก

สรุป

สำหรับข้อมูลข้างต้นนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตัดสินใจเลือกจอทัชสกรีน E-Board อาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของการตัดสินใจ เราคิดว่าน่าจะช่วยท่านได้ไม่มากก็น้อย ข้อมูลเหล่านี้มาจากประสบการณ์ ที่ต้องบอกเพราะเราไม่อยากให้ท่านพลาด ส่วนท่านใดสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามกันเข้ามาได้