4K คืออะไร?

4K มาตรฐานใหม่ของความละเอียดหน้าจอ ปัจจุบันจะได้ยินได้เห็นคำนี้มากขึ้น ซึ่งทางด้าน Samsung เองก็ไม่ได้น้อยหน้าเรื่องเทคโนโลยี 4K เพียงแต่เขาไม่ได้โปรโมทด้วยคำนี้แต่เขาใช้คำว่า UHD แทน ซึ่งย่อมาจาก Ultra High Definition ต่อไปจะขอเรียกรวมเป็น 4K เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายและไม่สับสน ส่วน 4K ก็ย่อมาจาก 4 + Kilo ก็คือ 1,000 รวมเป็น 4,000 อันนี้เป็นที่มาของตัวอักษรที่กำลังฮิตกันอยู่ในปัจจุบัน

หากย้อนกลับไปในอดีต ความละเอียดของหน้าจอต่างๆ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยความละเอียดที่เพิ่มขึ้นก็จะได้ประโยชน์ในด้านของความคมชัดของ Content ที่มากขึ้น ความสมจริงของสีสัน และความเป็นธรรมชาติ

เข้าเรื่อง 4K กันเลย ความละเอียดของ 4K แบบ widescreen จะเท่ากับ 3,840 พิกเซล X 2,160 พิกเซล จับคูรกันจะได้ประมาณ 8.29 ล้านพิกเซล ซึ่งกำลังเข้าทดแทนความละเอียดปัจจุบันที่ Full HD คือ 1,920 พิกเซล x 1,080 พิกเซล คูณกันออกมาได้ประมาณ 2.07 ล้านพิกเซล ตรงนี้น่าจะช่วยให้จดจำกันได้ง่ายขึ้น คือ ความละเอียดแบบ 4K มากกว่า Full HD ถึง 4 เท่า

โดยความละเอียดระดับ 4K นี่แหละที่กำลังเข้ามาทดแทน Full HD ในวงการภาพยนต์ และสื่อต่างๆ ที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ Youtube เองก็รองรับการเล่นคลิปวิดีโอแบบ 4K แล้ว

ประโยชน์ของ 4K ในเชิงคุณภาพ

ยิ่งจำนวนพิกเซลเยอะก็จะส่งผลให้ขนาดพิกเซลเล็กลง และเรียงตัวกันชิดมากยิ่งขึ้น รอยหยักตามขอบแบบขั้นบันไดก็จะน้อยลง รวมถึงพื้นที่ร้อยต่อระหว่างภาพน้อยลงทำให้ภาพดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันราคาจอ 4K ก็ได้ลดลงมามากพอสมควรแล้ว อีกไม่นานก็จะเริ่มทดแทนที่ Full HD ได้อย่างสมบูรณ์ เราจะได้ Content ที่ดีขึ้น และช่วยสร้างประสบการณ์รับรู้ใหม่ๆ ได้มากขึ้นกว่าเดิม 

ปัจจุบันในกลุ่มของ Digital Signage เองก็มีสินค้าใหม่ที่มีความละเอียดภาพระดับ UHD ออกมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว และเริ่มเข้ามาทดแทนสินค้าเก่าที่เป็น Full HD เรื่อยๆ  ภาพด้านบนเป็นภาพเปรียบเทียบระหว่าง Full HD และภาพแบบ 4K ซึ่งจะเห็นว่ามีความคมชัดมากกว่าเมื่อขยายภาพเดียวกันออกมา

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.personnel.psu.ac.th/m_sance/book33.pdf